วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ข้อแตกต่างระหว่างโคมลอยกลางวันและกลางคืน สรุปผลการปฏิบัติงาน



1.โคมลอยกลางวันมีขนาดใหญ่กว่าโคมลอยกลางคืนมากเวลาปล่อยต้องใช้คนช่วยกัน 5-6 คน
2.เนื่องจากโคมลอยกลางวันมีขนาดใหญ่ต้องใช้เวลาในการปล่อยนานมากกว่าจะรมควันให้เต็มในตัวโคมได้
3.โคมลอยกลางวันใช้กระดาษว่าวต่อกันหลายชิ้นถ้าทำไม่ดีมักมีรู รั่วอยู่เสมอ ๆ และถ้ารูปทรงไม่ดีโคมจะลอยเอียง ขึ้นไม่สูง หรือมักตกประจำ
4.โคมลอยกลางวันมีกรรมวิธีการปล่อยที่ค่อนข้างต้องใช้ความระมัด ระวัง บางครั้งช่วงที่รมควันไฟถ้าไม่ระวังอาจโดนตัวโคมทำให้เกิดไฟลุกหรือไม่ก็มัก จะมีลูกไฟหล่นจากการรมควันไฟอยู่เสมอ ๆ
5.โคมลอยกลางคืนหาซื้อง่าย ราคาถูก ขนย้ายสะดวก เวลาปล่อยใช้คน 1-2 คนก็ทำได้
6.โคมลอยกลางคืนเกิดความสวยงามบนท้องฟ้า จึงมักนิยมปล่อยกันทีละมาก ๆ ในงานพิธีสำคัญต่าง ๆ
7.โคมลอยกลางคืนมีลูกเล่นสามารถประดับพลุ ไฟน้ำตก เพื่อให้เกิดความสวยงามและเพลิดเพลิน
8.จุดโคมลอยกลางคืนมีความหมายเหมือนแสงสว่างที่จะนำพาคนปล่อย หลุดพ้นจากความทุกข์กายทุกข์ใจนำพาให้โชคชะตาชีวิตดีขึ้น สูงขึ้น และนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
9.วัยรุ่นหนุ่มสาวนิยมปล่อยโคมลอยกลางคืนร่วมกันมีความเชื่อว่าหากได้ลอยโคมลอยแล้วอธิษฐานร่วมกันจะทำให้รักกันยาวนาน
10.มีความเชื่อที่ว่าการลอยโคมกลางคืนเป็นการลอยเพื่อสะเดาะเคราะห์จึงมีคนนิยมลอยโคมกลางคืนกันอย่างแพร่หลาย



สรุปผลการปฏิบัติงาน 



             จากการที่ได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับคุณสมบัติของกระดาษแก้วพบว่ามีคุณสมบัติที่เบากว่ากระปกติจึงเหมาะสมที่จะนำมาประดิษฐ์เป็นโครม
จากการศึกษาเทคนิค วิธีการทำโคมจากวิทยากร ทำให้สมาชิกกลุ่มมีความรู้เกี่ยวกับการการทำโคม และมีความรู้เกี่ยวกับเทคนิค วิธีการ และกระบวนการประดิษฐ์โคมจากกระดาษแก้วรวมไปถึงการออกแบบรูปทรงของโคมที่จะประดิษฐ์ทำให้สมาชิกห้องมีรูปแบบที่แน่นอน เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และยังนำผลงานมาจัดนิทรรศการและจัดจำหน่ายเป็นการเพิ่มรายได้ให้สมาชิกห้องและที่สำคัญยังสามารถส่ง
ผลสมาชิกในห้องเกิดความสามัคคี ทำงานเป็นทีม ช่วยกันทำงานจนประสบผลสำเร็จ ได้ผลิตภัณฑ์ตามเป้าหมายที่วางไว้
ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน

                1. สมาชิกห้องมีความรู้เกี่ยวกับกระดาษที่สามารถนำมาประดิษฐ์โคม
                2. มีความรู้  เทคนิค  และวิธีการ ทำโคมจากวิทยากรท้องถิ่น
                3. ได้โคมที่ประดิษฐ์จากกระดาษเพื่อนำไปพัฒนาผลงาน
                4. ได้รูปแบบของโคมที่ประดิษฐ์จากกระดาษ
                5. ได้โคมที่ประดิษฐ์จากหระดาษที่นำไปจำหน่ายได้
                6. ได้เผยแพร่ผลงานและจัดจำหน่ายผลงานนักเรียนทำให้มีรายได้ระหว่างเรียน
                7. ได้ช่วยลดขยะในชุมชน
                8. ได้ความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานอุตสาหกรรม
                9. ได้ความรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง
                10. สามารถจัดนิทรรศการเผยแพร่ผลงานได้
                11. ได้นำความรู้และทักษะการทำงานไปใช้ในชีวิตประจำวัน
                12. ได้เสริมสร้างการทำงานเป็นห้องและความสามัคคีในกลุ่ม
ปัญหา / อุปสรรค์ในการทำโครงงาน
                1. กระดาษขาดง่าย
                2. ทากาวไม่แน่นทำให้เวลาตัวโคมไม่สวยไม่สวย
                3. ทำผิดรูปทรงที่ออกแบบไว้
                4. ปล่อยโคมเกิดการไหม้กระดาษทำให้โคมพังเสียหาย
ข้อเสนอแนะ
                1. เวลาทำทากาวให้แน่น
                2. เวลาตัดกระดาษควรตัดให้เท่าๆ กันเวลาติดกาวจะได้เท่ากัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น